จำนวนเต็ม (Integer)
จำนวนเต็ม คือ
จำนวนที่ไม่มีเศษส่วนและทศนิยมรวมอยู่ในจำนวนนั้น
มีจำนวนเต็ม 3 ชนิดคือ
1.จำนวนเต็มบวก
คือ จำนวนที่อยู่ทางด้านขวาของ 0 บนเส้นจำนวน
เรียกว่าจำนวนนับ
2.จำนวนเต็ม 0 คือ จำนวนที่ไม่เป็นทั้งจำนวนเต็มบวกหรือเต็มลบ
3.จำนวนเต็มลบ คือ จำนวนที่อยู่ทางด้านซ้ายของเส้นจำนวน
2.จำนวนเต็ม 0 คือ จำนวนที่ไม่เป็นทั้งจำนวนเต็มบวกหรือเต็มลบ
3.จำนวนเต็มลบ คือ จำนวนที่อยู่ทางด้านซ้ายของเส้นจำนวน
การบวกจำนวนเต็ม
ก. 10 + 8 = (+10) + (+8) = 18
ข. (-7) + (-5) = - 7 - 5 = -12
ค. - 5 + 8 = (-5) + (+8) = 3
ง. - 4 + (-7) = - 11
จ. 8 + (-6) = 8 - 6 = 2
ก. 10 + 8 = (+10) + (+8) = 18
ข. (-7) + (-5) = - 7 - 5 = -12
ค. - 5 + 8 = (-5) + (+8) = 3
ง. - 4 + (-7) = - 11
จ. 8 + (-6) = 8 - 6 = 2
การลบจำนวนเต็ม
ก. 11 - 8 = (+11) - (+8) = 3
ข. -7 - (-8) = - 7 + 8 = +1
ค. - 5 - (+9) = -5 - 9 = - 14
ง. - 2 - (-7) = - 2 + 7 = 5
จ. 8 - (-7) = 8 + 7 = 15
การลบจำนวนเต็ม ต้องอาศัยการบวกตามข้อตกลงดังนี้
ตัวตั้ง - ตัวลบ =
ตัวตั้ง + จำนวนตรงข้ามของตัวลบ
6 - 2 = 6 + (-2)
2 - 6 = 2 + (-6)
(-15) - 3 = (-15) + (-3)
จะเห็นได้ว่า
เวลาบวกเลขที่มีเครื่องหมาย ถ้าเครื่องหมายเหมือนกันก็เอาไปรวมกันถ้าเครื่องหมายต่างกันก็เอาไปหักกัน
จำนวนที่เหลือก็มีเครื่องหมายตามจำนวนมาก ในการลบนั้น
เราเปลี่ยนเครื่องหมายตัวลบให้เป็นตรงข้ามคือ
ถ้าตัวลบเป็นจำนวนลบก็เปลี่ยนเป็นจำนวนบวกแล้วเอาไปบวกกับตัวตั้งถ้าตัวลบเป็นจำนวนบวกก็เปลี่ยนเป็นจำนวนลบ
แล้วเอาไปบวกกับตัวตั้ง
การคูณจำนวนเต็ม
การคูณจำนวนเต็ม มีสมบัติการสลับที่ การเปลี่ยนกล่ม และการแจกแจงบนการบวก ซึ่งเราจะใช้สมบัติเหล่านี้ในการหาผลคูณ
การคูณจำนวนเต็ม มีสมบัติการสลับที่ การเปลี่ยนกล่ม และการแจกแจงบนการบวก ซึ่งเราจะใช้สมบัติเหล่านี้ในการหาผลคูณ
การคูณจำนวนเต็มบวกกับจำนวนเต็มลบ เช่น
4 x 2 = 2 + 2 + 2 + 2
2 x 5 = 5 + 5
5 x 7 = 7 + 7 + 7 + 7
หรือ 3 x (-4) = (-4) +
(-4) + (-4) = -12
สมบัติการบวกและการคูณของจำนวนเต็มบวก
ให้ a, b และ c แทนจำนวนเต็มบวกใด ๆ
1. สมบัติการสลับที่สำหรับการบวก
a + b = b + a
เช่น 2 + 5 = 5 + 2
ให้ a, b และ c แทนจำนวนเต็มบวกใด ๆ
1. สมบัติการสลับที่สำหรับการบวก
a + b = b + a
เช่น 2 + 5 = 5 + 2
2. สมบัติการสลับที่สำหรับการคูณ
a x b = b x a
เช่น 2 x 5 = 5 x 2
a x b = b x a
เช่น 2 x 5 = 5 x 2
3. สมบัติการเปลี่ยนกลุ่มสำหรับการบวก
(a + b) + c = a + (b + c)
เช่น (2 + 5 ) + 6 = 2 + ( 5 + 6 )
(a + b) + c = a + (b + c)
เช่น (2 + 5 ) + 6 = 2 + ( 5 + 6 )
4. สมบัติการเปลี่ยนกลุ่มสำหรับการคูณ
(a x b) x c = a x (b x c)
เช่น (2 x 5 ) x 6 = 2 x ( 5 x 6 )
(a x b) x c = a x (b x c)
เช่น (2 x 5 ) x 6 = 2 x ( 5 x 6 )
5. สมบัติการแจกแจง
a x (b + c) = (a x b) + (a x c)
เช่น 2 x ( 5 + 6 ) = (2 x 5) + (2 x 6 )
a x (b + c) = (a x b) + (a x c)
เช่น 2 x ( 5 + 6 ) = (2 x 5) + (2 x 6 )
หรือ (b + c) x a = (b x a) + (c x a)
เช่น (5 + 6 ) x 2 = (5 x 2 ) + ( 6 x 2 )
เช่น (5 + 6 ) x 2 = (5 x 2 ) + ( 6 x 2 )
หรือ a x ( b - c ) = ( a x b) - (a x c )
เช่น 2 x ( 5 - 3 ) = ( 2 x 5 ) - ( 2 x 3 )
2 x ( 3 - 5 ) = ( 2 x 3 ) - ( 2 x 5 )
เช่น 2 x ( 5 - 3 ) = ( 2 x 5 ) - ( 2 x 3 )
2 x ( 3 - 5 ) = ( 2 x 3 ) - ( 2 x 5 )
ที่มา http://202.143.132.2/e-learning/digital/math03/24/2/Webmath/jam_nuon_tem.html 17 กันยายน 2556
ที่มา https://www.youtube.com/watch?feature=player_embedded&v=LQXfPBFwEnM 17 กันยายน 2556